วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

บทสรุปเกมส์ Dark Souls

เริ่มเกม เราจะถูกจองจำอยู่ในห้องขัง แต่จะมีอัศวินโยนศพลงมา สำรวจจะได้กุญแจสำหรับเปิดห้องขัง และให้ตรงไปตามทาง ระหว่างทางจะมีสอนการควบคุมเบื้องต้น ให้ตรงไปจนสุดทางและปีนบันไดขึ้นชั้นบน เมื่อขึ้นมาจะพบกองไฟ (Bon Fire) ที่นี่จะเป็นจุดเซฟและจุดเช็คพอยท์ ซึ่งถ้าตายหรือใช้เวทย์หมด ให้มากดสำรวจจะสามารถฟื้นพลังได้ จากนั้นให้ตรงไปที่ประตูด้านหน้าเมื่อตรงไปกลางห้องจะพบกับบอส Asylum Demon กระโจนลงมาในห้อง ให้หนีไปห้องทางซ้าย
เมื่อหนี เข้ามาจะพบ Bon Fire ให้ตรงไปต่อจะพบนักธนูซอมบี้ดักยิงธนูใส่ ให้วิ่งหลบฝ่าเข้าไปสักหน่อยจะเห็นตรอกด้านซ้าย ตรงนั้นจะมีโล่ให้เก็บ ติดตั้งโล่แล้วถือบุกขึ้นไปจัดการซอมบี้นักธนูได้เลย แต่เมื่อเราเข้าใกล้มันจะวิ่งหนีให้วิ่งตามไป ตามทางจะพบศพที่มีแสงให้สำรวจจะได้อาวุธใหม่มาใช้ ให้เอามาใส่แล้วตรงไปจัดการซอมบี้นักธนูซะ ตรงไปต่อจะพบทางแยก ไปทางขวาจะพบบันได ลงบันไดมาเปิดประตูจะย้อนกลับไปที่ Bon Fire ที่พบอันแรกได้ จากนั้นให้ย้อนกลับมาและขึ้นบันไดไปด้านบน ให้ระวังซอมบี้ผลักลูกเหล็กตกลงมา จากนั้นให้หันหลังมองไปที่ตามจุดที่ลูกเหล็กกลิ้งลงมาชนกำแพงเป็นช่อง ให้ตรงเข้าไปจะพบอัศวิน Oscar the Knight of Astora เลือกคำตอบข้อแรก เขาจะให้ขวดยาฟื้นพลัง Estus Fire สำหรับฟื้นพลังและกุญแจสำหรับเปิดประตูให้แก่เราก่อนที่จะสิ้นใจไป จากนั้นให้ออกมาและขึ้นบันไดไปด้านบน ใช้กุญแจที่ได้มาเปิดประตู ตรงไปจะพบศพสำรวจจะได้อาวุธ จากนั้นให้จัดการซอมบี้ตามรายทาง จะพบประตูที่มีหมอกสีขาวซ้ายมือ ก่อนสำรวจให้เตรียมตัวให้พร้อมเพราะเมื่อเข้าไปจะต้องสู้กับบอส Asylum Demon ทันที (ถ้าเราไม่จัดการตอนเจอครั้งแรก)
บอส Asylum Demon 
                เมื่อเข้ามาเราจะอยู่บนระเบียงด้านบน พอบอสเดินมาใกล้ให้เรารีบกระโดดไปที่ตัวมันและกดโจมตี เราจะใช้ท่าปักดาบใส่มันจากที่สูง (Plunging Attack) จะทำดาเมจได้แรงมาก และเมื่อลงมาด้านล่างแล้วเตรียมสู้กับมันทันที บอสตัวนี้โจมตีแรงมาก ฉะนั้นอย่าเผชิญด้านหน้ามันเด็ดขาด ให้พยายามกลิ้งไปด้านข้างหรือด้านหลังของมันแล้วคอยดักฟันทีละครั้ง 2 ครั้ง ก็จะจัดการมันได้
เมื่อจัดการบอสได้แล้วจะได้กุญแจสำหรับเปิดประตูด้านหลัง ตรงขึ้นเนินไปจนสุดจะเราจะถูกอีกาขนาดยักษ์โฉบจับเราไปยังสถานที่ใหม่
Firelink Shrine 
                เราจะถูกนกยักษ์ส่งลงมาที่ Bon Fire ใกล้ๆ จะพบนักรบ Crestfallen ให้เข้าไปคุยเขาจะแนะนำสถานที่และจุดหมายที่ต้องไปแก่เรา จากนั้นให้ลองสำรวจพื้นที่แถวนี้ดู โดยจะมีจุดที่น่าสนใจ ดังนี้
                - ลงบันไดไปด้านล่าง จะพบสาวใบ้ Anatasia of Astora เธอเป็นผู้ดูแล Bon Fire แห่งนี้ ถ้าผู้เล่นสามารถหาไอเทม Fire Keeper Souls ได้ ให้นำมาให้เธอจะสามารถอัพเกรด Estus Fire ให้ฟื้นพลังได้มากกว่าเดิมได้
- ลงบันไดมาจะพบลิฟต์ลงมาที่ดันเจี้ยน New Londo Ruin ได้ ที่นี่เป็นดันเจี้ยนที่ค่อนข้างยากอย่าไปกลัว ถ้าเป็นสายเวทย์ให้ลงบันไดมาแล้วเดินไปด้านขวาจะพบบันไดทางลง ตรงนั้นจะมีนักเวทย์ถูกขังอยู่ในคุก ให้เข้าไปคุยและซื้อเวทย์ Soul Arrow และ Heavy Soul Arrow จากเขา จะช่วยให้สู้ได้ง่ายขึ้น
- จากกองไฟให้เดินขึ้นไปทางขวาบนจะพบนักบวช  Petrus of Thorolund เข้าไปคุยจะสามารถเข้ากลุ่มของเขาได้ และให้คุยอีกครั้งเขาจะขายไอเทมให้แก่เรา โดยไอเทมที่ขายจะเป็นพวกเวทย์ฟื้นพลังและอาวุธประเภท Talismans
- ตรงสุสานนั้นมีพวกโครงกระดูกที่ค่อนข้างโหดเฝ้าอยู่ แต่ด่านในนั้นมีไอเทมดีๆ ให้เก็บหลายอย่าง ให้รีบวิ่งไปเก็บซะ
Undead Burg
                ให้วิ่งขึ้นเนินทางด้านขวาขึ้นไปบนสะพานหินด้านบนจะเป็นทางเข้าไปที่ Undead Burg ให้ตรงขึ้นไปจัดการพวกทหารกระดูก แล้วตรงเข้าช่องตรงสะพานตรงนี้จะมีหนูผี ให้ระวังเพราะถ้าถูกมันโจมตีจะทำให้ติดพิษได้ เมื่อจัดการแล้วให้ตรงเข้าไปจะพบประตูล็อกอยู่ยังไม่ต้องสนใจ ให้เข้าช่องเล็กทางซ้าย จะพบป้อมปราการ ให้ค่อยๆ จัดการเหล่าทหารกระดูกฝ่าเข้าไปด้านในจะพบประตูที่มีหมอกสีขาว
                เมื่อเข้าประตูหมอกให้ตรงออกมาที่ลานด้านหน้าจะมีมังกรโผล่ออกมา ยังไม่ต้องสนใจ ให้ไปแยกทางขวาจัดการทหารกระดูก 2 ตัว แล้วทำลายลังที่เรียงอยู่ใกล้ๆ จะพบทางลงชั้นล่างลงไปจะพบพ่อค้า ให้ไปซื้อของสำคัญคือ กุญแจ Resident Key และ Repairbox สำหรับซ่อมอาวุธ
เมื่อ พร้อมแล้วให้ตรงขึ้นไปต่อจะพบ Bon Fire ทางซ้ายให้ฟื้นพลัง และให้ลุยต่อจนถึงหอคอยด้านบน ใกล้ๆ จะมีประตูไม้อยู่ปกติจะเข้าไม่ได้ถ้าไม่มีกุญแจ แต่ถ้าตอนเริ่มเกมเลือก Master Key จะสามารถเปิดเข้าได้ ด้านล่างจะเป็นทางออกไปดันเจี้ยน Dark Root Basin ได้ แต่ว่าจะมีอัศวิน Havel ขวางอยู่ซึ่งค่อนข้างเก่ง พยายามจัดการเขาให้ได้ และจะได้แหวน Havel’s Ring ที่ช่วยน้ำหนักในการใส่ของได้ จากนั้นให้ย้อนกลับขึ้นมาและตรงขึ้นบันไดด้านบนจะพบประตูหมอกขาว เข้าไปจะพบบอส
บอส Taurus Demon 
                เมื่อเข้ามาแล้วอย่าเพิ่งเดินไปด้านในให้เดินชิดขวาจะเห็นบันไดตรงกำแพงให้ ปีนขึ้นไปจัดการศัตรูด้านบนก่อน จากนั้นให้ตรงไปที่กลางสะพานบอสจะปรากฏตัวออกมา วิ่งกลับมาที่บันได ปีนขึ้นไปแล้วกระโดดลงมาโจมตีจะทำให้จัดการได้สบายๆ
                เมื่อจัดการได้แล้วไปที่ประตูที่มีหมอกกั้น ตรงไปและลงมาด้านล่าง ทางซ้ายจะพบสะพานที่มีกลุ่มศัตรูอยู่ตรงกลางสะพาน ส่วนด้านหน้าจะมีประตูล็อกอยู่ (ทางเข้าดันเจี้ยน Dept) ยังไม่ต้องสนใจ ให้ลงมาด้านขวาจะพบกับอัศวิน Solaire of Astora ให้เข้าไปคุยหลายๆ ครั้ง เขาจะให้ไอเทมที่สามารถเรียกเขาออกมาช่วยต่อสู้ได้ แล้วค่อยกลับมาที่สะพาน วิ่งเข้าไปสักระยะแล้วให้รีบวิ่งถอยกลับมาจะมีมังกรโผล่ออกมาพ่นไฟจัดการ กลุ่มศัตรูทั้งหมด แล้วมันจะบินไปเกาะเฝ้าประตูฝั่งตรงข้าม ถ้าเข้าไปใกล้มันจะพ่นไฟฆ่าเราได้ทันที แต่มีวิธีผ่านคือ ให้รีบวิ่งไปกลางสะพาน สังเกตด้านขวาจะมีช่องให้รีบกระโดดลงไปจะหลบไฟได้พอดี จากนั้นให้ลงมาที่ช่องด้านล่างจะสามารถเตะบันไดไว้ไต่ลงมาเซฟที่ Bon Fire ในป้อมตอนแรกได้
                ย้อนกลับขึ้นไปจะมีช่องให้เดินตามใต้สะพาน เดินเลาะมาทางขวาจะเห็นหางมังกร ให้ใช้ธนูยิงจนหางมันขาดจะได้ดาบ Drake Sword มาใช้ จากนั้นให้เดินเลาะทางซ้ายจะมีช่องทางเข้าไปใต้ป้อมแต่ตรงนั้นจะมีฝูงหนูนรก ขวางอยู่ 3 ตัว ให้ระวังด้วย และให้ปีนบันไดขึ้นด้านบน เมื่อขึ้นมาแล้วจะมีบันไดขึ้นบนยอดหอคอย ให้ขึ้นไปจะพบอัศวินดำ จัดการมันซะ
                ตรงไปยังป้อมปราการ จัดการกลุ่มศัตรูและหมูป่ายักษ์ที่อยู่ด้านใน และเมื่อตรงเข้าไปประตูชั้นในจะถูกปิดลงลงไปยังชั้นใต้ดินที่อยู่ซอกทางขวา ด้านในจะมีกุญแจ Mystery Key  ให้เก็บ แล้วให้สังเกตตรงมุมห้องจะพบบันไดให้ขึ้นมาชั้นบน จากนั้นให้เดินเลาะไปตามทางจะสามารถอ้อมมาด้านหลังตรงประตูกั้น ที่นั่นจะมีกุญแจ Basement Key ให้เก็บ แล้วให้ไปสับสวิตช์ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเปิดประตู ตรงไปต่อจะพบห้องโถง ด้านในจะมีพวกอัศวินดักอยู่ ค่อยๆ ล่อออกมาจัดการทีละตัวด้านในจะมี Fire Keeper Soul ให้เก็บ ส่วนด้านซ้ายจะมีลิฟต์ ที่ลงไปแล้วจะสามารถพาเราย้อนกลับไปที่ Firelink Shrine ได้ จากนั้นให้กลับขึ้นมาก่อนและขึ้นบันไดที่อยู่ใกล้ๆ ลิฟต์ขึ้นมาชั้นบน จัดการนักเวทย์ และฝูงซอมบี้ และเดินอ้อมมาอีกฝั่งจัดการอัศวินดำ และตรงเข้าไปจะพบแผ่นไม้ที่มีแสงลอดให้ทุบและเข้าไปด้านในจะพบอัศวินเกราะ ทอง Lautrec of Carim ถูกขังให้ใช้ Mystery Key เปิดจะช่วยเขาออกมาได้ปีนบันไดขึ้นไปชั้นบนจะพบกับบอส Gagoyle (ตรงจุดนี้ถ้าเราเป็นมนุษย์จะสามารถ ซัมมอนเรียกอัศวินตรงสะพานมาช่วยเราสู้ได้)
บอส Bell Gagoyle
                ที่นี่เราจะต้องสู้กับบอสกากอย 2 ตัว ซึ่งค่อนข้างตึงมือมาก วิธีจัดการคือ อย่าอยู่ตรงกลาง ให้พยายามเดินล่อเข้ามาจัดการทีละตัว ถ้าเป็นจอมเวทย์ให้คอยกลิ้งและยิงเวทย์ใส่จากระยะไกลจะสามารถจัดการบอสได้ ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นนักรบให้อาศัยจังหวะที่มันแทงหอกหรือพ่นไฟกลิ้งอ้อมไปด้านข้างและ กะจังหวะฟันสวน ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะจัดการบอสทั้ง 2 ตัวนี้ได้ไม่ยาก
                เมื่อจัดการได้แล้วให้ตรงเข้าไปที่โบสถ์ด้านใน และปีนขึ้นไปสับสวิตช์สั่นระฆังด้านบน และให้ลงมาด้านล่างจะพบกับบาทหลวง Oswald of Carim เขาจะมีไอเทมมาขายให้กับเรา และถ้าเราไปเผลอฆ่า NPC เราสามารถมาสารภาพบาปเพื่อลบความผิดกับเขาได้ด้วย
                จากนั้นให้ย้อนกลับไปที่หอคอยตรงที่เราฝ่าพวกหนู 3 ตัวใต้สะพานขึ้นมา ตรงนั้นให้ขึ้นไปบนยอดหอคอยจะพบมังกรเกาะอยู่ ให้ใช้ธนูยิงใส่นัดเดียวมันก็จะตายเลย (บั๊กร้ายแรงสุดๆ) จากนั้นให้ย้อนกลับไปที่สะพานที่มังกรเฝ้าจะพบ Bon Fire และให้สับสวิตช์ใกล้ๆ เพื่อเปิดประตูรั้วที่ปิดอยู่ได้ จากนั้นให้ย้อนข้ามสะพานฝ่ากลุ่มศัตรูไปยังอีกด้านไปยังประตูที่ล็อกอยู่ เพื่อเข้าด้านล่างของปราการ Undead Perish
เมื่อลงมา ด้านล่าง เราจะถูกฝูงหมาปีศาจวิ่งออกมาต้อนรับ ให้จัดการพวกมันซะแล้วเลี้ยวไปทางขวาจะพบประตูบ้านหลังนึง กดสำรวจจะใช้กุญแจ Resident Key เปิดออกได้ เข้าไปจะช่วยนักเวทย์ Griggs of Vinheim ได้ จากนั้นให้ตรงไปทางซ้ายจะพบกลุ่มศัตรูและหมาปีศาจให้ไล่จัดการไปจะพบประตู ที่มีหมอกเปิดเข้าไปจะพบบอส
บอส Capra Demon 
                บอสตัวนี้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่ว่าด้วยพื้นที่แคบและมีหมาปีศาจ 2 ตัวคอยป่วนทำให้สู้ยาก ให้จัดการหมาทั้ง 2 ตัวก่อนโดยพยายามเดินชิดขอบห้องไปเรื่อยๆ จากนั้นให้ค่อยไล่อัดบอสก็จะผ่านได้ไม่ยาก ส่วนนักเวทย์บอสตัวนี้ต้องบอกว่ายากมาก เพราะที่แคบนักเวทย์ค่อนข้างบาง ให้พยายามใช้สเต็ปกลิ้งหลบให้ดีๆ
                เมื่อจัดการบอสได้จะได้กุญแจ Key to Depths ไว้สำหรับเปิดเข้าดันเจี้ยน Depths ได้ จากนั้นออกมาจากห้องแล้วสังเกตทางด้านขวามือจะพบบันไดเดินลงมาชั้นล่าง ตามทางมาจะเห็นประตูทางฝั่งขวา สำรวจจะใช้กุญแจที่ได้จากบอสเข้าดันเจี้ยน Depths ได้ แต่ก่อนลงให้เดินขึ้นบันไดทางด้านซ้ายขึ้นไปจะพบแม่ค้ากระดูกเธอจะมีของขาย ให้กับเรา และให้ตรงไปอีกด้านเพื่อเปิดประตูจะสามารถย้อนกลับไปที่ Firelink Shrine และทางเข้า Undead Purge ได้
Depths 
                ให้ลงไปด้านล่างจะพบกับเหล่าซอมบี้ หมาปีศาจ และพ่อครัวนรก ให้จัดการพวกมันและลงไปตามทางจะพบห้องที่มีลังวางเยอะๆ ตรงมุมห้องจะพบกับ Laurentius of the Great Swamp ที่เป็น Pyromancer ถูกขังอยู่มุมห้อง กลิ้งทำลายลังเข้าไปช่วยเขา จากนั้นลงไปต่อจะเป็นทางลงท่อน้ำ พยายามมองด้านบนเพดานจะมีพวก Slime เกาะอยู่ให้ระวังด้วย และเมื่อตรงไปจะพบประตูที่ล็อกอยู่ด้านในมี Bon Fire ถ้าเรามี Master Key จะเปิดเข้าไปได้เลย แต่ถ้าไม่มีให้ตรงเข้าไปและลงไปด้านล่างจะพบศัตรูเป็นพวกหนู ล่อออกมาจัดการทีละตัว อย่าให้มันรุมเพราะถ้าโดนมันโจมตีจะทำให้ติดพิษ ให้ลงไปต่อจะพบกุญแจ Sewer Chamber Key ไว้เปิดประตูที่ล็อกอยู่ จากนั้นค่อยพยายามหาทางลงด้านล่างสุดจะพบอัศวิน Downhall of Zena เขาจะมีไอเทมขายให้กับเรา ส่วนทางด้านขวามือของเขาจะเป็นทางไปดันเจี้ยน Blight Town แต่จะยังเข้าไม่ได้ ให้เข้าช่องเล็กๆ ทางซ้ายมือของเขาจะพบทางลงไปพบบอส
บอส Gaping Dragon
                บอสตัวนี้ค่อนข้างใหญ่ แต่ว่ามันเคลื่อนไหวช้า แถมรูปแบบการโจมตีก็ไม่ค่อยมีไรมาก ถ้าเป็นนักเวทย์ให้ค่อยๆ ถอยออกห่างและดักยิงเวทย์จากด้านข้างจะจัดการได้ง่ายมาก แต่ถ้าเป็นสายสู้ประชิดให้พยายามกลิ้งไปด้านข้างตัวมันเช่นกันแล้วค่อยฟัน ตอด 2–3 ที แล้วค่อยกลิ้งฉากหลบออกมาแล้วค่อยเข้าไปฟันใหม่ก็จะผ่านได้ง่ายๆ
เมื่อจัดการบอสได้แล้วจะกุญแจ Blighttown Key สำหรับเปิดประตูเข้าสู่ Blight Town
Blight Town 
                ให้พยายามเดินช้าๆ ไล่จัดการศัตรูทีละตัวและคอยสังเกตจุดไหนที่มีโคมไฟจะมีบันไดให้ปีนลงไปด้าน ล่างได้ ค่อยๆ ปีนลงมาจะพบ Bon Fire จุดแรก จากนั้นให้ตรงไปทางขวาของ Bon Fire จะพบพวกหมาพ่นไฟและเหล่าซอมบี้ จัดการและลงบันไดไปด้านล่างจะพบศัตรูกลุ่มใหม่ที่เป็นแมลงพ่นไฟและพวกยุงนรก ที่จะคอยแห่กันเข้ามาตลอด ไล่จัดการพวกมันจนลงมาถึงบึงด้านล่าง แต่อย่าเพิ่งเดินลงไปมั่วซั่วเพราะบึงนั้นถ้าเราเดินแช่นานจะติดพิษ ให้เราเดินชิดด้านขวาเลาะกำแพงไปเรื่อยๆ จะพบ Bon Fire อีกหนึ่งจุดให้เราพักหายใจ
                จากนั้นให้เดินเลาะไปทางขวาต่อจะพบกังหันที่สามารถใช้มันขึ้นไปด้านบน ให้ปีนบันไดขึ้นมาจนสุดจะพบหีบสมบัติเปิดออกจะได้กุญแจ New Londo Ruins และถ้าตรงขึ้นไปต่อจะพบทางออกไปที่หุบเขา Valley of Drake แต่เราจะยังไม่ไปตอนนี้ ให้ย้อนกลับมาด้านล่างแล้วเดินเลาะไปทางขวาต่อจะพบจะพบทางเข้ารังแมงมุม Quelaag’s Domain ตรงเข้าจะพบประตูหมอก ตรงนี้ถ้าเราเป็นมนุษย์จะมีสัญลักษณ์เรียกพวกออกมาช่วยต่อสู้ได้ พร้อมแล้วก็ให้กดสำรวจประตูหมอกเพื่อสู้กับบอส
บอส Chaos Witch Quelaag 
                บอสตัวนี้จะเป็นแมงมุมไฟขนาดยักษ์ เธอจะโจมตีโดยการใช้แส้ไฟฟาดใส่และพ่นลาวาโจมตี วิธีจัดการคือ ถ้าเป็นสายเวทย์ก็เช่นเคย กลิ้งออกข้างและยิงวงนอกสเต็ปเดิมปราบบอสได้ทุกตัว ส่วนสายประชิดก็คล้ายกัน แต่ให้ฟันด้านข้าง 2-3 ทีและกลิ้งหลบออกมา รอจังหวะมันโจมตีค่อยเข้าไปสวนก็จะชนะได้ไม่ยาก
                เมื่อจัดการได้แล้วให้ตรงเข้าไปต่อจะพบสวิตช์ ให้เข้าไปสับจะทำให้ระฆังใบที่สองดัง ทำให้โกเลมยักษ์ที่เฝ้าประตูป้อมปราการ Sin Fortress เปิดประตูให้เราเข้าไปได้ จากนั้นให้ลงบันไดมาด้านล่างจะพบทางออกไป Demon Ruin แต่อย่าเพิ่งเดินไป เมื่อลงบันไดให้เดินไปฝั่งตรงข้ามบันไดแล้วตีไปที่กำแพงจะพบทางลับและปีศาจ อย่าไปตีมันให้เข้าไปคุยและเลือก Yes เขาจะเปิดทางให้พบ Daughter of Chaos และจุดพัก Bon Fire
The Great Hollow 
                กลับมาที่บึงใน Blight Town ตรงมาทางซ้ายจะพบต้นไม้ยักษ์ให้ปีนขึ้นไปจะพบศพให้สำรวจ จากนั้นให้ตีกำแพงจะพบทางลับด้านในมีหีบอีกอัน และให้ตีกำแพงด้านหลังหีบอีกทีจะพบทางลับลง The Great Hollow ซึ่งด้านในจะเป็นโพรงไม้ขนาดยักษ์ ให้ค่อยๆ เดินตามแนวกิ่งไม้ไปจะสารมารถลงไปด้านล่างได้ โดยระหว่างทางจะมีพวก Basilisk ที่พ่นควันทำให้ติด Curse ซึ่งถ้าโดนเข้าจะตายทันที ให้ระวังด้วย ถ้าตายเมื่อฟื้น ตัวเราจะติดสถานะ Curse ทำให้พลังลดเหลือครึ่งนึง วิธีแก้คือต้องซื้อไอเทม Purging Stone จากแม่ค้าผีตรงสะพานเข้า Undead Burg หรือ ซื้อจาก Carim ที่โบสถ์ที่สู้กับกากอย หรือจะไปให้ NPC ใน New Londo Ruins รักษาให้ก็ได้ เมื่อลงมาด้านล่างสุดจะพบทางเข้าสู่ทะเลสาบ Ash Lake
Ash Lake 
                ที่นี่จะมีไฮดร้าเฝ้าอยู่ ไม่ต้องไปสนใจมัน ให้รีบวิ่งตรงเข้าไปด้านในสุดจะพบกับมังกรยักษ์ Stone Dragon ให้รออยู่แถวๆ นั้นสักพักไฮดร้าจะตามเรามาบนฝั่งแล้วมันจะตายไปเองเพราะขาดน้ำ 55+ จากนั้นค่อยเข้าไปคุยกับมังกรและเข้ากลุ่มจะได้ไอเทม Dragon Eye และ Dragon Head Stone เป็นของรางวัล จากนั้นก่อนกลับให้อ้อมมาด้านหลังมังกรและจัดการหั่นหางมันซะจะได้ไอเทม Dragon Greatsword มาใช้ด้วย
                เมื่อหมดธุระที่นี่แล้วให้ย้อนกลับมาที่ Blight Town ขึ้นกังหันออกไปทาง Valley of Drake แล้วข้ามสะพานไปฝั่งตรงข้ามแล้วเลี้ยวซ้ายจะใช้กุญแจเปิดเข้าไปที่ New Londo Ruins ได้ และใช้ลิฟต์ที่นั่นย้อนกลับไปที่ Firelink Shrine
Firelink Shrine 
                เมื่อกลับขึ้นมาจะพบว่าสาวใบ้ที่ถูกขังนั้นถูกฆ่า ทำให้ Bon Fire ที่นี่ใช้งานไม่ได้เหลือแต่ดวงวิญญาณกดสำรวจจะได้ชุดและไอเทม Black Eye Orb จากนั้นให้กลับขึ้นมาด้านบนจะพบกับ NPC ที่เราได้ช่วยตามที่ต่างๆ ได้มารวมตัวกันที่นี่ เข้าไปคุยจะสามารถซื้อของและเวทย์ดีๆ จากพวกเขาได้ (แต่ละคนจะแยกอยู่ตามแต่ละจุดรอบๆ กองไฟ ยกเว้น Zena จะไปอยู่ใต้สะพานเข้า Undead Perg) จากนั้นให้ตรงเข้าไปตรงกลางจะพบสัตว์ประหลาดให้เข้าไปคุยจะพบว่ามันชื่อ Kingseeker Frampt ให้เข้ากลุ่มมัน และคุยอีกครั้งเราจะสามารถเอาไอเทมที่ไม่ได้ใช้ไปแลก Soul กับมันได้ เสร็จแล้วให้ทางฝั่งขาวจะพบกลุ่มนักบวชให้เข้าไปคุย จากนั้นให้ขึ้นลิฟต์ที่อยู่ทางด้านขวา ระหว่างที่ลิฟต์ขึ้นจะเห็นช่องแตก ให้กลิ้งออกไป เดินเลาะแล้วกระโดดไปที่แง่งด้านหน้าเราจะขึ้นมาบนซากวิหารได้ ให้ตรงเข้าไปจะขึ้นไปเก็บกุญแจ Asylum F2 West จากศพบนวิหาร และให้เดินเลาะขึ้นไปด้านบนต่อจะพบรังนกให้กดสำรวจ แล้วรอสักพักนกยักษ์จะพาเรากลับไปที่ Undead Asylum อีกครั้ง
Undead Asylum (รอบ 2) 
                เมื่อกลับมาจะพบว่าศัตรูที่นี่เก่งกว่าเดิมมาก ให้ระวังด้วย จากนั้นให้ตรงไปที่ลานด้านหน้า แต่อย่าเดินไปตรงกลางเพราะตรงนั้นถ้าไปเหยียบพื้นจะถล่มลงไปเจอกับบอส ดังนั้นก่อนไปให้เดินไปอ้อมไปเซฟที่ Bon Fire ด้านหน้าก่อน และเมื่อพร้อมแล้วก็วิ่งไปลานตรงกลางให้ร่วงตกลงมาสู้กับบอสได้เลย
บอส Stray Demon 
                รูปร่างเหมือนบอสตัวแรกที่เจอตอนต้นเกม แต่ว่าคราวนี้มันมาแบบอัพเกรด โหดกว่าเดิมเยอะ ทั้งโจมตีแรงและมีท่าระเบิดพลังใส่ที่รุนแรงมากๆ วิธีจัดการคือ อย่าเผชิญมันด้านหน้า ให้ตั้งโล่กันไว้ตลอดแล้วกลิ้งตัวไปด้านข้างมันเพื่อดักฟันหรือยิงเวทย์ ให้ใช้วิธีนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถจัดการกับมันได้
เมื่อ จัดการได้ให้ปีนบันไดตรงมุมห้องออกมาจะออกมาตรงจุดที่เราเริ่มเกมได้ ให้ย้อนกลับเข้าไปจะมีศัตรูอยู่ ให้จัดการมันแล้วสำรวจในห้องจะได้ไอเทม Peculiar Doll สำหรับเข้าดันเจี้ยน Painted World of Ariamis จากนั้นขึ้นไปสำรวจด้านบน ใช้กุญแจ Asylum F2 West ไปเปิดประตูที่เข้าไม่ได้ตอนเริ่มเกมเพื่อเข้าไปเอาของแล้วกลับย้อนออกมา
                จากนั้นให้ย้อนกลับมาที่ Firelink Shrine และขึ้นลิฟต์ทางขวามาที่ Undead Parish จากหน้าลิฟต์ให้วิ่งตรงไปจนสุดทางจะพบบันไดและเสียงตีเหล็ก ให้ลงไปจะพบ Bon Fire ใกล้ๆ จะพบทางเข้าปราการ Sen’s Fortress แต่ก่อนลงแนะนำให้ลงบันไดไปอีกชั้นจะพบ Blacksmith Andre of Astora เขาจะสามารถตีบวกอาวุธและเครื่องป้องกันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นได้ และยังมีไอเทมสำคัญ Crest of Artoias ที่ต้องซื้อกับเขาในราคา 20,000 เพื่อเปิดผนึกเข้าไปในใจกลางป่า Dark Root Basin ได้ แต่ยังไม่ต้องลงไปต่อ ให้กลับขึ้นและตรงเข้าไปลุยปราการ Sen’s Fortress ก่อน
Sen’s Fortress 
                ตรงเข้าจะพบกับดักที่พื้น ถ้าเหยียบจะมีลูกดอกพุ่งออกมาให้ระวัง จากนั้นให้ตรงเข้าไปจะพบนักรบงู 2 ตัว จัดการพวกมันซะ และตรงเข้าไปต่อจะพบกับดักใบมีดให้วิ่งข้าม แต่ให้ระวังด้วยเพราะด้านหน้ามีศัตรูคอยดักยิงเวทย์สายฟ้าใส่เราจากด้านบน ให้ค่อยๆ ฝ่าไปแล้วจะพบกับบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นด้านบน แต่อย่าเพิ่งวิ่งขึ้นไปให้มองดูก่อนจะเห็นว่ามีก้อนหินยักษ์กลิ้งตกลงมา รอให้มันกลิ้งตกลงมาก่อนแล้วค่อยวิ่งลงมาข้างบันไดจะพบอัศวิน Sigmeyer of Catarina จากนั้นวิ่งขึ้นไประหว่างบันไดจะเห็นช่องแคบทางซ้ายให้เข้าไป จะมีศัตรูดักอีกตัว ให้จัดการมันแล้วตรงเข้าไปจะเห็นทางแยกซ้ายขวา ให้รอตรงนั้น อย่าเพื่อออกไปรอให้หินกลิ้งลงมาก่อนแล้วค่อยวิ่งขึ้นมาทางขวาจะพบแท่นปล่อย หิน หมุนแกนให้หินกลิ้งตกลงมาที่ช่องทางขวาและลงไปที่ช่องกำแพง จะพบพ่อมด Big Hat Logan ถูกขังอยู่ถ้ามีกุญแจ Master Key ช่วยเขาออกมาได้เลย แต่ถ้าไม่ต้องขึ้นไปกุญแจ Cage Key บนป้อมปราการมาเปิด
                จากนั้นให้ย้อนกลับที่แท่นยิงหินอีกครั้ง ช่องทางซ้ายมือใกล้กับจุดที่เราวิ่งขึ้นมา ตรงไปตามทางผ่านพวกศัตรูและกับดักใบมีด จะพบประตูหมอกกดสำรวจเราจออกมาส่วนระเบียงของปราการ ตรงนี้จะมีโกเลมยักษ์คอยปาระเบิดไฟลงมา ให้รีบวิ่งขึ้นมาทางซ้ายจะพบศพที่มีไอเทมให้เก็บ อย่าเพิ่งไปสนใจให้มองด้านขวาจะพบช่องกำแพงแตกให้หย่อนตัวลงไปจะพบ Bon Fire ไว้เซฟและฟื้นพลัง
                เมื่อพร้อมแล้วให้รีบวิ่งขึ้นไปด้านบนจะพบประตูหมอกตรงนั้นจะเป็นบอส อย่าเพิ่งไปสนใจ ให้ตรงขึ้นไปจัดการโกเลมที่ปาระเบิดไฟก่อน จากนั้นค่อยย้อนกลับมาตรงโกเลมยักษ์ที่ยกหิน ทางซ้ายจะเป็นทางขาดให้กระโดดข้ามไปจะพบอัศวิน Crestfall Merchant เขาจะมีไอเทมขายแก่เรา และให้ลงบันไดใกล้ๆ จะพบกุญแจ Cage Key ไว้ช่วยพ่อมดที่ถูกขังอยู่ แล้วย้อนกลับขึ้นมาลุยกับบอส แต่ถ้าเป็นมนุษย์อยู่ให้วิ่งไปที่หอคอยทางขวาจะมีจุดซัมมอนเรียกเพื่อนออกมา ช่วยสู้ได้
บอส Iron Golem 
                บอสตัวนี้โจมตีค่อนข้างแรง ถึงแม้มันจะเคลื่อนไหวช้า แต่มีท่าโจมตีที่น่ากลัวอย่าง สะบัดขวานพัดลมพุ่งโจมตีเรา หรือถ้าอยู่ใกล้มันจะเอามือคว้าจับแล้วเอาไปขยี้ซึ่งแรงมาก แต่วิธีจัดการก็กระโดดฉีกหลบการโจมตีออกด้านข้างแล้วดักฟันหรือยิงเวทย์ ยิ่งถ้ามีเพื่อนช่วยล่อก็จะช่วยจัดการได้ง่ายๆ
เมื่อจัดการได้แล้วจะมีวงแหวนสีเหลืองปรากฏอยู่ใจกลางเมื่อสำรวจเราจะถูกส่งไปวิหารเทพ Anor Londo
Anor Londo 
                ลงบันไดมาจะพบทหารยักษ์ให้จัดการแล้วลงมาจะพบห้องโถงให้ไปทางขวา เข้าห้องทางซ้ายจะพบ Bon Fire สำหรับเซฟ ที่นี่จะพบกับ Lady of the Darkling ที่เป็น Fire Seeker อีกหนึ่งคน เมื่อพร้อมแล้วให้ออกมาแล้ววิ่งไปฝั่งตรงข้ามลงลิฟต์มาจะพบกากอยใส่เกราะ จัดการมันแล้วเดินลงมาทางซ้าย ให้วิ่งไต่ขึ้นไปตามรางหลังคาจะพบช่องกระจกแตกให้เข้าไปด้านในได้
                เมื่อเข้ามาแล้วจัดการศัตรูและปีนบันไดขึ้นด้านบน เดินบนคานข้ามไปอีกฝั่ง เมื่อถึงตรงกลางโคมไฟยักษ์ให้ฟันไปที่โซ่จะทำให้โคมไฟตกลงมาเก็บของได้ ข้ามไปทางขวาจะพบบันได ตรงนั้นจะพบประตูหมอกสีขาวให้เข้าไปจะพบแท่นลิฟต์ให้หมุน 2 ครั้ง แล้วลงบันไดไปด้านล่างจะพบจุดเซฟ ตรงนี้ถ้าใส่แหวน Dark Moon Seance Ring (หาได้จากในดันเจี้ยนสุสาน Catacomb เมื่อได้มาแล้วค่อยย้อนกลับมาสู้ทีหลัง) รูปปั้นด้านหลังจะหาย และจะลงไปสู้กับบอส Dark Sun Gwyndolin ได้
บอส Dark Sun Gwyndolin
                บอสตัวนี้ยากมาก เราจะต้องสู้กับเธอบนระเบียงเวทย์มนต์ทีมีความยาวไม่สิ้นสุด โดยเธอจะคอยวาร์ปหนีเมื่อเราเข้าไปใกล้ และคอยดักโจมตี 3 แบบแก่เรา คือ ยิงเวทย์ขนาดยักษ์ ยิงเวทย์แบบลูกปรายพุ่งเข้าหาเรา และยิงใบมีดรัวเป็นชุด วิธีสู้คือให้คอยวิ่งหลบตามเสาด้านข้าง แต่ถ้าบอสยิงเวทย์ใส่ให้กลิ้งหลบเพราะมันจะยิงทะลุเสามาได้ ส่วนยิงใบมีด ให้วิ่งฉีกออกด้านข้างก็จะหลบได้ หรือถ้าหลบไม่ทันจริงๆ ก็ให้ตั้งโล่การ์ดไว้ได้ แล้วค่อยกระหน่ำฟันหรือยิงเวทย์ใส่ก็จะจัดการได้
                เมื่อชนะแล้วกลับขึ้นบันไดไปแล้วหมุนแท่นตามเข็มนาฬิกาไปหนึ่งครั้งจัดการกา กอยใส่เกราะที่เฝ้าทางขึ้นวิหารอยู่แล้วตรงขึ้นไปด้านบนจะพบทหารยักษ์เฝ้า อยู่ 2 ตัว ให้จัดการหรือวิ่งผ่านไปที่ช่องทางขวาแล้วลงบันไดมาจะพบปีศาจ Bat Wing Demon เฝ้าอยู่ 3 ตัวให้จัดการพวกมันแล้วเดินข้ามแง่งเล็กลงไปด้านล่าง จะพบปีศาจอีก 2 ตัวให้จัดการซะ แล้วให้มองไปทางซ้าย ตรงจุดนี้จะยากมาก เพราะทางขึ้นจะมีนักธนูดักยิงอยู่ 2 ตัวบนทางแคบๆ ให้ตั้งโล่กันเพราะธนูที่ยิงใส่มันแรงจนทำเรากระเด็นตกเหวได้ ให้รีบวิ่งขึ้นไปแล้วไปจัดการนักธนูด้านขวาก่อนจะไม่โดนยิงรุม แล้วให้เดินเลาะกำแพงต่อไปจะพบประตูหมอกให้เข้าไปด้านใน
                เข้าห้องทางซ้ายจะพบ Bon Fire ใช้พักฟื้นพลังได้ จากนั้นให้ออกมาและขึ้นบันไดตรงกลางแล้วเดินอ้อมกลับมาอีกฝั่งแล้วเข้าห้อง ทางซ้าย จัดการศัตรูในห้องจะพบบันไดขึ้นระเบียงด้านบน จะพบศัตรูอีก 2 ตัวให้จัดการแล้วลงบันไดทางซ้ายจะพบอัศวินเกราะหัวหอมให้เข้าไปคุย จากนั้นให้ย้อนกลับขึ้นไปที่ระเบียงและเข้าห้องตรงกลางลงบันไดมาแล้ววิ่งตรง ขึ้นบันไดไปจะออกไปที่ห้องโถงกลางทางขวาจะพบประตูหมอกด้านในจะพบบอส แต่อย่าเพิ่งเข้าไปให้วิ่งอ้อมขึ้นไปทางซ้ายแล้วลงบันไดอีกฝั่งจะเป็นทางไป พบช่างตีเหล็กยักษ์สำหรับตีอาวุธให้กับเราได้ จากนั้นเมื่อพร้อมแล้วก็เตรียมลุยบอสได้เลย
บอส Dragon Slayer Ornstein และ Executioner Smough 


                การต่อสู้ครั้งนี้ค่อนข้างโหดเพราะเราต้องสู้กับบอสพร้อมกันทั้ง 2 ตัว โดย Ornstein จะมีท่ายิงสายฟ้าโจมตีจากระยะไกล และค่อนข้างไว ส่วน Smough จะใช้ค่อนไล่ทุบ ซึ่งถ้าเป็นสายเวทย์วิธีจัดการไม่ยากนัก ให้คอยหลบตามหลังเสาแล้วดักยิงทีละตัว แต่ถ้าเป็นสายประชิด ต้องรอให้มันแยกกันแล้วค่อยกลิ้งเข้าไปฟัน โดยการวิ่งอ้อมเสาดักฟันไปเรื่อยๆ และเมื่อจัดการตัวใดตัวหนึ่งได้ ตัวที่เหลือจะดึงพลังจากอีกตัวไปเพิ่มความสามารถและฟื้นพลังเต็ม แต่รูปแบบการโจมตีก็ไม่แตกต่างเดิมมากนัก และสู้ได้ง่ายขึ้นเพราะเหลือแค่ตัวเดียวแล้ว


                เมื่อจัดการได้ให้ขึ้นลิฟต์ที่อยู่ด้านในห้องขึ้นมาชั้นบนแล้วเปิดประตูเข้า ไปจะพบเทพ Gwynevere เธอจะมอบไอเทม Lordvessel และช่วยให้เราใช้ Bon Fire ในการวาร์ปไปสถานที่ต่างๆ ได้  จากนั้นให้ย้อนกลับออกมาตรงท้องพระโรงที่มีทหารยักษ์ 2 ตัวยืนเฝ้าอยู่ จะมีตัวหนังสือขึ้นมาบอกให้ใช้ไอเทม Black Eye Orb ให้กดใช้เราจะถูกดึงเข้าไปในโลกของฆาตกรที่ฆ่าสาวใบ้ ที่นั้นเราจะพบนักรบเกราะทองที่เราช่วยไว้ที่ Undead Purge และลูกสมุนมันอีก 2 ตัวให้จัดการพวกมันจะได้วิญญาณของสาวใบ้กลับมา และให้วาร์ปกลับไปที่ Firelink Shrine ลงมาคืนวิญญาณให้สาวใบ้ แล้ว Bon fire ที่นี่จะใช้งานได้อีกครั้ง จากนั้นให้วาร์ปไปที่ Chamber of the Princess แล้ววิ่งออกมาจากวิหารมาตรงแท่นหมุนให้ลงบันไดวนมาด้านล่าง แล้วเข้าห้องโถงทางขวาด้านในจะมีพวกศัตรูชุดชาวยืนคุมอยู่มากมายให้ฝ่าเข้า ไปด้านในสุดจะพบรูปขนาดยักษ์ ถ้าเรามีไอเทม Peculiar Doll ให้กดสำรวจจะถูกดูดเข้าไปในรูป
Painted World of Aramias 
                ตรงเข้าไปจะพบ Bon Fire ให้ฟื้นพลัง เมื่อพร้อมแล้วตรงขึ้นไปจะพบประตูถูกล็อกอยู่ อ้อมไปทางขวาขึ้นมาด้านบนแล้วตรงเข้าไปด้านใน จากนั้นให้กระโดดลงมาด้านล่างเพื่อมาเปิดประตูที่ล็อกอยู่ จะทำให้เรากลับออกมาพักฟื้นพลังได้ง่ายขึ้น จากนั้นให้ย้อนกลับเข้าไปแล้วเดินชิดซ้ายขึ้นบันได เดินไปตามทางจะพบบันไดลงมาชั้นล่าง ให้เดินตรงไปจุดที่มีแสงสว่างส่องเข้ามา ตรงเสาใกล้ๆ แสงนั้นจะมีแท่นหมุนอยู่ ให้หมุนแล้วรูปปั้นตรงกลางซากวิหารจะหมุนไปเปิดประตูด้านใน ให้ตรงเข้าไปจะพบกับบอส
บอส Priscilla 


                เมื่อเริ่มต่อสู้เธอจะใช้เวทย์ล่องหน ให้เราถอยห่างออกมาจากสังเกตรอยเท้าตรงหิมะ จะมีรอยเท้าของเธอ ให้กะจังหวะฟันใส่เธอติดกัน 3–4 ครั้ง แล้วเธอจะเผยร่างออกมา เราต้องกะจังหวะพุ่งตัวเข้าไปฟัน หรือยิงเวทย์จากระยะ และถ้าฟันหางเธอขาดจะได้อาวุธดีๆ มาใช้ด้วย
เมื่อจัดการเธอได้แล้วให้เดินไปที่แท่นทื่ยื่นออกมาจากถูกวาร์ปออกมาจากรูปภาพได้
Darkroot Garden & Darkroot Basin 
                กลับมาที่ Bon Fire ใน Undead Parish แล้วตรงไปที่พบช่างตีเหล็ก ลงต่อไปจะพบปีศาจขาด้วน ให้จัดการมัน แล้วตรงออกมาจะพบทางออกมาที่ Darkroot Garden วิ่งตรงมาจนสุดจะพบประตูที่มีแสงสีขาว ถ้าเราซื้อตราสัญลักษณ์ Crest of Artorias ราคา 20,000 จากช่างตีเหล็กมาจะสามารถเปิดประตูนี้ได้และทุบกำแพงด้านขวาของประตูจะพบทาง ลับด้านในจะมี Bon Fire ให้พักอีกหนึ่งจุด
                แต่ก่อนเปิดประตูเข้าไป ให้เราตรงเข้าไปที่แยกเล็กๆ ทางขวาตรงเข้าไปจะพบประตูหมอกกดผ่านเข้าไปวิ่งตัดผ่านป่าเข้าไปในซากปรักหัก พังทางมุมขวาและขึ้นบันไดไปจะพบประตูหมอกเปิดเข้าไปจะพบบอส
บอส Moonlight Butterfly 
                บอสตัวนี้ไม่ยากมันจะบินไปบินมาและยิงพลังใส่ แต่สามารถกลิ้งหลบได้ง่ายๆ แล้วค่อยใช้ธนูหรือเวทย์ดักยิง แต่ถ้าเป็นสายประชิด ให้กลิ้งหลบสักพักมันจะเข้าไปมาเกาะดอกไม้ตรงสะพานให้รีบวิ่งไปกระหน่ำฟันก็ จะจัดการได้ง่ายๆ
                เมื่อจัดการบอสได้ให้ตรงเข้าไปที่หอคอยด้านในขึ้นไปชั้นบนสุดจะพบกุญแจ Wachtower Basement Key ใช้สำหรับเปิดประตูเข้าทางใต้ดินเข้า Undead Burg (ตรงที่มีอัศวิน Havel เฝ้าอยู่)
                จากนั้นให้ย้อนกลับไปที่ประตูที่ต้องใช้ ตราสัญลักษณ์ Crest of Artorias เปิด เมื่อลงมาให้รีบวิ่งตรงไปฝั่งตรงข้ามตรงซากปรักหักพังจะมีแมว Alvina of the Darkroot Wood เข้าไปคุยและเข้ากลุ่มเธอจะทำให้นักรบไม่โจมตีใส่เรา แต่ถ้าเราเข้าไปโจมตีสัตว์ที่อยู่ในป่านี้พวกเขาจะรุมโจมตีเราทันที และให้ตรงเข้าไปต่อจนสุดทางจะพบประตูหมอกเข้าไปลานกว้างตรงกลางจะมีดาบยักษ์ เข้าไปสำรวจจะพบบอส
บอส Sif, The Great Grey Wolf 


                บอสตัวนี้ค่อนข้างไวและโจมตีแรงมาก มีท่าโจมตีหลักอยู่ 3 แบบคือ กระโจนเข้ามาเอาดาบตวัดใส่ ซึ่งถ้าโดนเข้านี่เลือดลดฮวบแน่ๆ แต่ที่จริงมีวิธีสู้อยู่ คือ ให้พยายามตั้งโล่ไว้รับการโจมตีครับ จะโดนเบามากๆ ถ้าเป็นสายเวทย์ก็ให้ถอยดึงระยะห่างๆ และตั้งโล่ไว้ตลอด รอยิงสวนจากระยะไกลตอนมันตวัดดาบซ้ายขวา ส่วนถ้าเป็นสายประชิดให้พยายามกลิ้งเข้าไปใต้ท้องมันและดักฟันไปเรื่อยๆ ก็จะจัดการได้ไม่ยากครับ
                เมื่อจัดการได้จะแหวน Covenant of Artorias สำหรับเข้าสู้บอสใน New Londo Ruins จากนั้นให้ย้อนกลับมาตรงที่เจอแมวแล้วให้เดินชิดขอบหน้าผามาเรื่อยๆ จะพบทางลงมาด้านล่าง ปีนลงบันไดไปจะพบทางเข้า Darkroot Basin และบอสไฮดร้า
บอส Hydra 
                บอสตัวนี้ต้องบอกว่ายากมากๆ สำหรับสายเวทย์ โดยมันจะมีการโจมตี 2 แบบ คือ ยิงกระสุนน้ำใส่ จากทั้ง 8 หัว และถ้าเข้าไปใกล้มันจะเอาหัวพุ่งเข้ามาฉก วิธีสู้คือให้รีบวิ่งเข้าไปใกล้ตัวมันที่สุด จะทำให้มันยิงกระสุนน้ำและใช้ท่าพุ่งลงมาฉกอย่างเดียว ให้เราตั้งโล่ป้องกันไว้พอมันพุ่งลงมาจกมันจะชะงัก จังหวะนี้ให้กระหน่ำฟัน เมื่อจัดการหัวทั้ง 8 ของมันได้หมดก็จะฆ่ามันได้
เมื่อ จัดการได้แล้วให้เดินเลาะไปทางซ้ายของบ่อน้ำ จะพบคริสตัลสีทองจัดการมันให้ได้จะสามารถปลดคำสาป Dusk of Oolacile คุยกับเธอและเลือกตอบข้อแรกและเธอจะหายไป การจะพบเธออีกครั้งจะต้องเป็นมนุษย์และสำรวจสัญลักษณ์หน้าบึงเพื่อเรียกเธอ อกมา เข้าไปคุยเธอจะมีเวทย์ขายให้แก่เรา
Valley of Drake 
                ดันเจี้ยนนี้มีทางเข้าด้วยกัน 3 จุดด้วยกันคือ จาก Firelink Shrine ลงลิฟต์มาด้านล่างแล้วเปิดประตูด้านขวา, ออกมาจากทาง Blight Town และ เข้ามาจาก New Londo Ruins ที่นี่จะมีศัตรูเป็นพวกมังกรเฝ้าอยู่ ซึ่งค่อนข้างเก่งมาก และตรงกลางที่จะมีบอส Undead Dragon อยู่ แต่ถ้าโจมตีจากระยะไกลก็จะจัดการได้สบาย
New Londo Ruins  
                จากจุด Bonfire ใน Firelink Shrine ให้เดินลงบันไดแล้วลงลิฟต์มาด้านล่างจะเข้าสู่ New Lomdo Ruins แล้วข้ามสะพานไม้เข้าไปด้านในจะพบศัตรูเป็นที่ผี ซึ่งการโจมตีปกติจะไม่สามารถจัดการมัน วิธีจัดการคือต้องกดใช้ไอเทม Transient Curse (ดรอปจากผีในดันเจี้ยนนี้) จะติดสถานะโจมตีผีได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือทำให้ตัวเองติด Curse จากการโจมตีของ Basilisk ในดันเจี้ยน The Great Hallow หรือจะใช้อาวุธติดคำสาปอย่าง Jagged Ghost Blade ที่ดรอปจากศัตรูที่นี่ก็จะสามารถฆ่าได้เช่นกัน
จากนั้น เมื่อพร้อมแล้วให้ตรงเข้าไปฝ่าดงผี ตรงขึ้นชั้นบนจะมีบันไดลงมาด้านล่างจะพบประตูหมอก เปิดเข้าไปจะพบบันไดแขวน เตะมันลงมาจะใช้เป็นทางลัดเข้ามาที่ทางเข้าได้โดยไม่ต้องฝ่าพวกผีเข้ามาอีก ตรงไปต่อจะพบรูปปั้นที่แอ่งน้ำด้านใน จุดนี้จะมีพวกผีเยอะมาก ค่อยๆ ล่อผีออกมาจัดการทีละตัว เรียบร้อยแล้วเข้าห้องทางขวามือ ตรงเข้าไปในห้องที่มีซากกระดูก ไปที่ปล่องไฟจะพบบันได ขึ้นไปจะพบ Ingward เข้าไปคุยจะได้กุญแจ Key to the Seal และสามารถรักษาสถานะ Curse กับเขาได้ด้วย
ลงมาด้าน ล่างแล้วตรงไปตามทางต่อจะพบทางเดินไปหอคอยทางซ้าย ลงบันไดไปใช้กุญแจที่ได้มาเปิดประตูและดันแท่นหมุนด้านในเพื่อเปิดประตูน้ำ ให้ไหลออกไปด้านนอก จากนั้นลงลิฟต์มาด้านล่างที่จะมีอัศวินเฝ้าตามรายทาง ให้ระวังด้วย จากนั้นข้ามไปอีกฝั่ง ไปตามทางจะพบประตูหมอก เข้าไปและวิ่งไปออกฝั่งตรงข้ามเลี้ยวซ้ายวิ่งทะลุซากปรักหักพังจะพบประตู หมอกอีกบาน เข้าไปจะพบบันไดวนแต่ไม่ต้องลงไป ให้สวมแหวน Covenant of Artorias ที่ดรอปจากบอสหมาป่า Sif แล้วกระโดดลงไปตรงกลางเลย เราจะถูกวาร์ปเข้าไปที่ The Abyss และสู้กับบอส
บอส Four King 
                ที่นี่เราจะต้องสู้กับบอสอัศวินปีศาจ Four King ซึ่งในตอนแรกมีปรากฏออกมาแค่ร่างเดียวเท่านั้น ให้รีบตรงเข้าไปจัดการ มันจะมีท่าโจมตีอยู่ 4 แบบคือ ใช้ดาบตวัดฟัน 2 ครั้ง, ใช้ดาบทิ่ม, ยิงลูกพลังสีม่วง และดึงเราเข้าไปกอด รีบจัดการมันให้ไวเพราะมันจะแยกร่างออกมาเรื่อยๆ ซึ่งถ้ามันแยกออกมาเยอะพยายามล่อมันออกมาจัดการทีละตัว อย่าอยู่ในวงล้อม จะสามารถจัดการมันได้
                เมื่อจัดการได้จะได้รับ Lord Soul Shard เป็นของตอบแทน พร้อมกับ Kingseeker Frampt และ Bonfire จะปรากฏออกมาให้เราเซฟ จากนั้นให้เข้าไปคุย เลือกตอบข้อ 2 (หรือถ้าตอบข้อแรก มันจะหายตัวไปอยู่ที่ Firelink Shrine) มันจะพาเราไปที่ Firelink Altar ให้เราไปสำรวจที่หน้าประตูและวาง Lordvessel จะทำให้บาเรียที่ปกคลุม Demon Ruin, The Duke’s Achieve และ Crystal Cave หายไป
The Duke’s Achieve 

วาร์ปไป ที่ Anor Londo แล้วให้ออกมาที่จุดเซฟและวิ่งตรงขึ้นไปออกทางขวา วิ่งขึ้นเนินไปจะพบบวิหารที่ตอนนี้บาเรียที่ขวางอยู่ได้หายไปแล้ว ตรงเข้าไปจะพบศัตรูเป็นหมูป่ายักษ์ 2 ตัว จัดการและตรงเข้าไปจะพบ Bonfire ให้ฟื้นพลัง จากนั้นให้ตรงเข้าไปสับสวิตช์ลิฟต์ขึ้นไปด้านบน จะอยู่ที่ห้องสมุด ให้จัดการศัตรู ขึ้นบันไดไปทางขวาและสับสวิตช์ขึ้นลิฟต์มาอีกชั้น ด้านบนจะเป็นห้องที่มีผลึกน้ำแข็งเกาะ ตรงเข้าไปจะพบประตูหมอกด้านในจะพบบอสมังกรน้ำแข็ง เราจะสู้มันไม่ได้และถูกมันฆ่าตาย เมื่อฟื้นขึ้นมาจะโผล่มาที่ห้องขัง ให้โจมตีใส่ยามหน้าห้องจะได้กุญแจ Archeive Tower Cell Key  เมื่อเปิดออก ยามจะเปิดสัญญาณเตือนภัยส่งศัตรูออกมา ให้ลงไปด้านล่างและเปิดประตูห้องขังจะพบกุญแจ Archive Prison Extra Key ลงไปต่อจะพบห้องขัง ด้านในจะพบพ่อมด Logan ถูกขังอยู่ ยังไม่ต้องสนใจเพราะเรายังไม่มีกุญแจ
ขึ้นบันได พาดที่อยู่ใกล้ๆ จัดการศัตรูด้านบนจะพบกุญแจ Archive Tower Giant Door Key และสับสวิตช์ดับเสียงแตรที่หอนดังอยู่ได้ จากนั้นปีนบันไดย้อนกลับขึ้นไปด้านบน ใช้กุญแจ Archive Tower Giant Door Key เปิดประตู ตรงขึ้นไปตามทางจะกลับมาที่ห้องสมุดอีกครั้ง ตรงไปทางซ้ายจะพบบันไดแขวน ข้ามไปอีกฝั่ง ตรงกลางสะพานจะมีสวิตช์ให้สับ สะพานจะหมุนขึ้นมาชั้นบน ขึ้นไปแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปที่บันไดแขวนอีกอัน กระโดดลงแล้วสับสวิตช์ตรงกลางบันไดอีกครั้ง จะทำให้เราข้ามไปฝั่งตรงข้ามแล้วเข้าจัดการตัวธนูและปีนบันไดลงมาด้านล่าง สับสวิตช์อีกตัว ชั้นหนังสือจะเปิดออกมาให้เข้าไปและไปทางซ้ายจะพบ Bonfire อีกจุดให้ฟื้นพลัง แล้วย้อนกลับไปห้องที่ปีนบันไดลงมาอีกครั้ง ด้านในจะมีหีบสมบัติสำรวจอดูจะมีไอเทมและกุญแจ Archive Tower Giant Cell Key ไว้สำหรับช่วยพ่อมด Logan ที่ถูกขังอยู่ในคุกด้วย จากนั้นสับสวิตช์ที่อยู่ในห้องนี้จะพบทางลับลงมาที่ทุ่งกว้าง ตรงกลางจะพบโกเลมคริสตัลสีทอง จัดการมันได้จะช่วยนักรบหัวหอม Catatirina แล้วให้ไปทางซ้ายจะพบทางลง Crystal Cave
Crystal Cave 
                ลงมาตามทางจะพบผีเสื้อคริสตัลที่ฆ่าหรือไม่ฆ่ามันก็ได้ แต่ถ้าไม่ก็อย่าเข้าไปใกล้แล้วมันจะไม่เข้ามาโจมตี จากนั้นลงไปต่อจะพบทางขาด แต่เราจะสามารถเดินข้ามไปได้เพราะจะมีสะพานล่องหนอยู่ ค่อยๆ เดินข้าม โดยสังเกตจากเกร็ดหิมะที่ตกลงมาจะสามารถเดินข้ามไปได้ ลงมาด้านในสุดจะพบกับบอส
บอส Seath the Scaleless
                วิธีจัดการ เริ่มต่อสู้ให้รีบวิ่งอ้อมไปด้านหลังบอสจะพบแท่งคริสตัล ฟันทำลายมันซะจะทำให้บอสไม่เป็นอมตะ จากนั้นให้วิ่งเข้าไปฟันด้านข้างก็จะไม่ถูกบอสโจมตี แต่ถ้าบอสพ่นน้ำแข็งติด Curse ออกมาให้กลิ้งหลบด้านข้างสลับซ้ายขวา โจมตีมันไปเรื่อยๆ เราจะไม่โดนน้ำแข็งเพราะหางของบอสจะกวาดทับน้ำแข็งจนแตกหมด ให้ใช้วิธีนี้จัดการมันเรื่อยๆ และถ้าสามารถตัดหางมันได้จะได้อาวุธดีๆ มาใช้ด้วย
                เมื่อจัดการได้จะได้ Bequeathed Lord Soul Shard จากนั้นให้ย้อนกลับไปหาจะพ่อมด Logan ซื้อเวทย์จากเขาให้หมดและคุยกับเขาอีกครั้ง เขาจะโกรธและไล่เราให้ออกมาก่อนแล้วค่อยกลับไปหาเขาอีกครั้ง แต่เขาจะหายตัวไป ให้เราย้อนกลับไปห้องที่พบบอส Seath the Scaleless ในตอนแรกที่เราถูกฆ่า จะพบว่า Logan กลายเป็น Hallow ไปแล้ว จัดการซะจะได้เวทย์สุดท้ายของ Logan มาใช้ ในห้องนี้ยังมี Large Magic Ember สำหรับตีอาวุธให้เก็บด้วย
Catacomb 

                วาร์ปกลับมาที่ Firelink Shrine แล้วตรงไปที่สุสานและชิดซ้ายจะพบทางลง Catacomb ลงไปจะพบ Bonfire และแท่นหินอยู่ใกล้ๆ ให้ดันแล้วออกมา ไปทางซ้ายจะมีทางออกไปด้านนอก เลาะหน้าผาข้ามไปอีกฝั่งด้านในจะมีโครงกระดูกจำนวนมากต้องใช้อาวุธประเภท Divine ถึงจะฆ่ามันได้ และจะพบทางออกอีกด้าน ให้เลาะไปทางซ้ายจะพบแท่นหินอีกอัน ดันแท่นหินแล้วสะพานตรงกลางจะพลิกให้เดินข้ามไปได้ ลงไปด้านในจะพบแท่นหินอีกอันให้เข้าไปดันและเดินย้อนกลับขึ้นมาจะพบช่องหิน ทางซ้ายเปิดออกให้เข้าไปจะมีทางให้เลาะหน้าผามาทางซ้าย ปีนบันไดขึ้นไปจะพบแท่นหินอีกอันให้ดันแล้วสะพานหินที่มีหนามที่อยู่ด้าน ล่างจะหมุนเปลี่ยนเป็นทางให้เดินข้ามได้
                จากนั้นลงบันไดและทุบกำแพงด้านข้างจะพบทางตรงเข้าไปจะพบ Bonfire ให้ฟื้นพลัง ออกไปข้ามสะพานจะพบประตูหมอก ตรงเข้าไป ลงมาด้านล่างจะพบทางเข้าสุสานยักษ์ ด้านในจะมีปีศาจขาด้วนเฝ้าอยู่ จัดการมันแล้วสำรวจโลงศพที่อยู่ใกล้ๆ จะมีโลงนึงที่มีฝาเปิดและยื่นออกมาให้กดสำรวจ เราจะเข้าไปนอนในโลงรอสักพักเราจะถูกดึงเข้าไปในถ้ำแห่งนึง  ด้านในจะพบ Gravelord เราจะสามารถเข้ากลุ่มเขาได้ จากนั้นให้กลับไปสำรวจโลงศพ เราจะย้อนกลับไปที่เดิมได้ ย้อนออกมาจะพบช่องแตกในสุสาน ลงไปจจนถึงก้นเหวด้านล่างจะมีโครงกระดูกล้อลากคอยกลิ้งใส่ พยายามล่อมันออกมาจัดการและตรงเข้าไปด้านในจะพบประตูหมอกด้านในจะพบกับบอส
บอส Pinwheel
                บอสตัวนี้จะแยกร่างและยิงไฟใส่เราจากรอบๆ ห้อง วิธีจัดการคือถ้าเล่นเป็นจอมเวทย์จะง่ายมากให้ใช้ เวทย์ Homing Soulmass และรีบวิ่งเข้าไปหาบอส มันจะโจมตีอัตโนมัติและแรงมาก กดใช้สัก 3 นัด บอสหลับสบาย แต่ถ้าเป็นสายบู๊ก็ยากหน่อย ให้เรารีบวิ่งไปโจมตีมัน พยายามอย่าอยู่ตรงกลางเพราะจะโดนร่างแยกมันรุมโจมตี ให้ตั้งโล่และไล่ฟันไปเรื่อยๆ แทนจะจัดการมันได้
                เมื่อจัดการบอสจะได้ไอเทม Rite of Kindling สำหรับอัพเกรดกองไฟให้ใหญ่ขึ้นกว่าที่กำหนดได้ (เพิ่มจำนวน Estus Flask) จากนั้นให้ปีนบันไดตรงมุมห้องขึ้นด้านบนจะพบทางมืด ค่อยๆ เดินตามจุดที่มีแสงกะพริบจะเป็นทางเข้าสู่ Tomb of Giant
Tomb of Giant 
                ที่นี่จะมืดมาก ต้องสังเกตจากแสงไฟตรงพื้น ค่อยๆ เดินลงไปโดยระหว่างทางจะมีโครงกระดูกเฝ้าอยู่ ให้ระวังด้วย เมื่อลงมาจะพบอัศวิน Patches เข้าไปคุยและสำรวจแสงไฟ ซึ่งเราจะถูก Patches ถีบตกลงมาด้านล่าง สำรวจกองศพจะพบไอเทม Skull Lantern ให้ถือสองมือและกด L1 จะใช้ส่องไฟแทนไฟฉายได้ ที่ข้างล่างนี้เราจะพบนักบวช Rhea of Thorolund เมื่อตรงไปต่อจะพบทั้ง 2 จัดการแล้วย้อนกลับมาคุยกับ Rhea เราจะได้เวทย์ Replenish แล้วตรงเข้าไปจัดการศัตรูจะพบบันไดปีนขึ้นมาด้านบน แต่จะพบทางตัน แต่มันเป็นกำแพงหลอก ให้เราเดินเลาะมาทางขวาแทน ซึ่งจะพบ Patches อีกครั้ง เข้าไปคุยกับเขาและตอบ No จะได้ Twin Humanities และถ้าเรากลับไปที่ Firelink Shrine จะพบเขาที่นั่นและจะมีไอเทมขายให้กับเรา
ลองส่องไฟ ไปทางด้านซ้ายจะพบบันได ลงไปจะพบ Bon Fire ให้ฟื้นพลัง เมื่อพร้อมแล้วให้กลับขึ้นมาไปทางขวาของ Patches เข้าประตูหมอกและลงไปตามทางจะพบ Bon Fire อีกหนึ่งจุด ลงไปต่อจะพบบันไดลงมาด้านล่าง เดินเลาะหน้าผาลงมาจะพบช่องเขา ตรงเข้าไปด้านในจะพบโครงกระดูก จัดการแล้วตรงไปต่อจะพบจอมเวทย์และกระดูกเด็ก ตรงเข้าไปด้านในจะพบประตูหมอกเข้าไปจะพบบอส
บอส Gravelord Nito 
                บอสตัวนี้ต้องบอกว่าหินสุดๆ เพราะมันจะเรียกพวกโครงกระดูกออกมารุมโจมตีเราด้วย วิธีจัดการคือ ให้รีบวิ่งเข้าไปหามันให้เร็วที่สุด กระหน่ำฟันมันซะ (ถ้าเป็นสายเวทย์รีบตรงเข้าไปล็อกเป้ามันไว้ก่อน) และถ้าบอสโจมตีให้ตั้งโล่ป้องกัน มันจะโจมตีเราพร้อมกับกวาดพวกกระดูกที่อยู่รอบมันออกไปด้วย ทำให้เราไม่ต้องกลัวโดนรุม ให้ใช้วิธีนี้วิ่งวนรอบตัวมันและกระหน่ำโจมตีไปเรื่อยๆ ก็จะจัดการมันได้
เมื่อจัดการได้จะได้รับ Lord Soul และจะมี Bon Fire ปรากฏขึ้นมาให้วาร์ปออกมาไปข้างนอกได้
Demon Ruins
วาร์ปไปที่ Daughter of Chaos และเข้าช่องทางขวาจะพบทางเข้า Demon Ruins ให้ลงไปทางขวาจะพบประตูหมอกตรงไปจะพบบอส
บอส Ceaseless Discharge 

บอสตัวนี้ จะขนาดใหญ่มาก วิธีจัดการคือเข้าไปใกล้แล้วมันจะฟาดหนวดใส่ หลบง่ายๆ แต่ต้องกะจังหวะแล้วกลิ้งหลบ พอมันฟาดมามันจะหยุดนิ่งสักพัก เปิดโอกาสให้กระหน่ำฟันและยัดเวทย์ใส่ก็จะจัดการมันได้ง่ายๆ
เมื่อ จัดการได้ ลาวาที่อยู่ด้านล่างจะลดลง ลงมาด้านล่าง เดินชิดขวาจะพบทางเข้าวิหารตรงเข้าไปด้านในและลงไปด้านล่างจะพบ Bon Fire ให้กดเซฟ ตรงไปต่อจะพบประตูหมอกเปิดเข้าไปจะพบกับบอส
บอส Demon Firesage ///h3///
บอสตัวนี้ จะเหมือนบอสที่เจอ Undead Asylum รอบ 2 เพียงแต่มันจะเลือดเยอะและโจมตีแรงกว่าเดิมให้ใช้วิธีเดิมจัดการก็จะสามารถ ฆ่าได้สบายๆ
เมื่อจัดการได้แล้วให้ตรงเข้าไปด้านในและลงบันไดมาด้านล่างจะพบ Bonfire ให้ฟื้นพลัง เมื่อพร้อมแล้วให้ลงไปต่อจะพบบอสอีกตัว
บอส Centipede Demon 
รูปแบบการโจมตีมันจะคล้ายกับบอส Ceaseless Discharge ยื่นแขนออกมาโจมตี กลิ้งหลบ ฟันหรือระดมยิงเวทย์ใส่ก็จะจัดการได้ง่ายๆ
เมื่อ จัดการได้แล้วจะได้แหวน Orange Charred Ring ที่ช่วยลดดาเมจเมื่อเดินบนลาวาได้ ให้สวมซะแล้วเดินเลาะไปทางซ้ายจะพบ Bon Fire และทางเข้า Lost Izalith
Lost Izalith
วิ่งเลาะ กิ่งไม้ทางซ้ายเข้าไปด้านในจะพบฝูงโครงกระดูกยักษ์ ล่อออกมาจัดการทีละตัว หรือใช้ธนูดักยิงจากระยะไกลจะปลอดภัยกว่า จากนั้นให้วิ่งฝ่าลาวาไปที่แท่นหินทางด้านขวาแท่นที่ 2 ตรงกลางจะมี Bon Fire ให้ฟื้นพลัง (ให้ทุบกำแพงจะพบทางลับเข้าไปด้านใน) เมื่อพร้อมแล้วให้วิ่งตรงจากจุด Bon Fire จะมีช่องคล้ายปล่อง ตรงเข้าไปแล้ววิ่งเลาะขึ้นกิ่งไม้จะเป็นทางเข้าด้านในจะพบกลุ่มรูปปั้น วิ่งฝ่าเข้าไปขึ้นบันไดไปจะพบศัตรูนักเวทย์ จัดการมันและตรงไปต่อจะพบประตูหมอกเข้าไปจะพบกับบอส
บอส Bed of Chaos 

บอสตัวนี้ ง่ายที่สุดในเกมแล้ว ก่อนอื่นเมื่อลงจะเห็นบาเรียกางอยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวบอส วิ่งและกลิ้งเข้าไปฟัน บาเรียจะหายไป แล้ววิ่งไปทำลายอีกด้าน เมื่อทำลายครบทั้ง 2 ด้านให้วิ่งไปตรงใจกลางมันจะทุบพื้นจนถล่ม ให้วิ่งลงไปตรงกิ่งไม้จะสามารถเข้าไปใจกลางของมันได้ และเราจะพบตัวอ่อนบอสอยู่ด้านใน ทุบใส่มันหนึ่งทีก็จะจัดการบอสตัวนี้ได้
เมื่อจัดการได้จะได้ Lord Soul เป็นของตอบแทนและมี Bonfire ปรากฏขึ้นมาให้เซฟและวาร์ปออกจากที่นี่ได้
Firelink Altar 

กลับมาคุย กับ Kingseeker Frampt เพื่อให้มันมาส่งที่ Firelink Altar ไปสำรวจกองไฟที่หน้าประตูแล้วเลือก Offer Souls of Lordvessel แล้วประตูจะเปิดให้เราเข้าไปในดันเจี้ยนสุดท้ายได้ ตรงเข้าไปด้านในฝ่าพวกอัศวินที่ยืนเฝ้าอยู่ตามจุดต่างๆ เข้าไปด่านในสุดจะพบบอสตัวสุดท้ายของเกมนี้
บอส Gwyn, Lord of Cinder 
บอสตัวสุด ท้ายเป็นอัศวินถือดาบเพลิง มีท่าโจมตีที่รุนแรงและว่องไวมาก ท่าโจมตีหลักคือ กระโดดเข้ามาฟัน, ตวัดดาบ 2 ครั้ง, ฟันรัว 4 ครั้ง, เตะ, พุ่งเข้ามาจับและระเบิดพลัง ซึ่งทุกการเคลื่อนไหวของบอส ถ้าตั้งรับพลาดมีโอกาสดับได้ภายในครั้งเดียว วิธีจัดการคือให้กลิ้งหลบการโจมตีของบอสครั้งแรกแล้วรีบวิ่งมาที่เสาหินทาง ด้านขวา ตรงจุดนี้ให้คอยวิ่งวนรอบเสา รอให้บอสโจมตีและมันจะหยุดนิ่งสักพักแล้วให้เรารีบเข้าไปฟันหรือยิงเวทย์ใส่ มันและรีบถอยออกมาทันที ใช้วิธีนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะจัดการบอสตัวนี้ได้ เกมนี้มีฉากจบให้เลือก 2 แบบ คือ สำรวจ Bonfire หลังจากบอสตาย หรือ หาทางหนีออกจากที่นี่ ชอบจบแบบไหนก็เลือกได้เลยครับ ^^
จบแล้วครับ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ท่านสามารถเข้าไปหาเกมส์ได้ที่  www.mungame.com
แหล่งที่มาhttp://www.online-station.net
 

ไม่มีความคิดเห็น: